ลงชื่อเข้าใช้  :  เข้าสู่ระบบ    
ข่าวประชาสัมพันธ์
ปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ในประเทศไทย ปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากหลายหน่วยงาน เนื่องจากมีปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นทุกปี ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ (Pollution Control Department, 2021) ระบุว่าในปี 2563 ประเทศไทยมีปริมาณขยะมูลฝอยมากถึง 27.06 ล้านตัน ซึ่งมีเพียง 32% เท่านั้นที่ได้รับการกำจัดอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ส่วนที่เหลือถูกกำจัดในวิธีที่ไม่เหมาะสม เช่น การเผากลางแจ้งหรือการฝังกลบโดยไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศ น้ำ และดิน หนึ่งในประเด็นสำคัญคือการจัดการขยะพลาสติก ที่กลายเป็นขยะส่วนใหญ่ในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดการสะสมของขยะในแหล่งน้ำและระบบนิเวศทางทะเล โดยเฉพาะในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน

ผลกระทบที่เกิดจากการจัดการขยะที่ไม่เหมาะสมในประเทศไทยนั้นเป็นที่สังเกตได้อย่างชัดเจน ทั้งในด้านสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม รายงานจากมูลนิธิบูรณะนิเวศ (Ecological Alert and Recovery Thailand Foundation, EARTH) ระบุว่าขยะพลาสติกในแหล่งน้ำมีผลต่อความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์ทะเล เช่น เต่าทะเลและปลาโลมา นอกจากนี้ ขยะอิเล็กทรอนิกส์และขยะเคมีในประเทศไทยที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้องก็เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารพิษในดินและน้ำในชุมชนชนบท ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชากรในพื้นที่เหล่านั้น (มูลนิธิบูรณะนิเวศ, 2563) ปัญหาเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยยังคงต้องพัฒนากลยุทธ์และโครงสร้างพื้นฐานในการจัดการขยะมูลฝอยให้ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

บรรณานุกรม
- กรมควบคุมมลพิษ. (2564). รายงานสถานการณ์มลพิษของประเทศไทย ปี 2563. กรุงเทพฯ: กรมควบคุมมลพิษ.  
- มูลนิธิบูรณะนิเวศ. (2563). รายงานการจัดการขยะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: มูลนิธิบูรณะนิเวศ.
7 พ.ย. 2567 10.14 น.
"ขยะอาหาร" ปัญหาเร่งด่วนและความสำคัญในการจัดการอย่างยั่งยืน

ปัจจุบันขยะอาหารกลายเป็นหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ทั่วโลก องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้รายงานว่าประมาณ 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตขึ้นมาทั่วโลกถูกทิ้งเป็นขยะ ซึ่งเท่ากับประมาณ 1.3 พันล้านตันต่อปี (FAO, 2011) ปัญหาดังกล่าวไม่เพียงแต่สูญเสียทรัพยากรในการผลิตอาหาร เช่น น้ำและพลังงาน แต่ยังสร้างมลภาวะจากก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากกระบวนการย่อยสลายของขยะอาหารในหลุมฝังกลบอีกด้วย งานวิจัยชี้ให้เห็นว่าขยะอาหารมีส่วนสำคัญในการปล่อยก๊าซมีเทน (CH₄) ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อนมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่า (EPA, 2020) ดังนั้นการจัดการขยะอาหารอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องให้ความสำคัญในระดับนโยบายและการปฏิบัติจริง

การจัดการขยะอาหารสามารถเริ่มต้นได้จากการลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นทางผ่านการปรับปรุงกระบวนการผลิต การขนส่ง รวมถึงการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ หน่วยงานหลายแห่งได้เสนอแนวทางลดขยะอาหาร เช่น การเปลี่ยนขยะอาหารไปเป็นพลังงานทดแทน การนำขยะอาหารไปใช้ในปุ๋ยหมักเพื่อการเกษตร หรือการบริจาคอาหารที่ยังสามารถรับประทานได้ให้แก่ผู้ที่ขาดแคลน (UNEP, 2021) นอกจากนี้ การให้ความรู้และสร้างความตระหนักแก่ประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบของขยะอาหารและวิธีการลดการสูญเสียอาหารจะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้ให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว

บรรณานุกรม
- FAO. (2011). Global food losses and food waste – Extent, causes and prevention. Rome: FAO.  
- EPA. (2020). Overview of Greenhouse Gases. Retrieved from [https://www.epa.gov/ghgemissions/overview-greenhouse-gases](https://www.epa.gov/ghgemissions/overview-greenhouse-gases)  
- UNEP. (2021). UNEP Food Waste Index Report 2021. Nairobi: UNEP.

27 ก.ย. 2567 17.37 น.